ชื่อสามัญ
PARACETAMOL 500 mg
รูปแบบยา
ยาเม็ด
ยานี้ใช้สำหรับ
ยานี้ใช้เพื่อรักษาหรือบรรเทาอาการไข้และอาการปวดระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
ยานี้อาจใช้เพื่อรักษาโรคหรืออาการอื่นๆได้
หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
วิธีการใช้ยา
วิธีใช้ยาต่อไปนี้เป็นข้อมูลทั่วไปไม่ใช่สำหรับผู้ใช้ยาเฉพาะราย
โปรดปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาของท่าน ยานี้อยู่ในรูปแบบยาเม็ด
ใช้สำหรับรับประทาน โดยทั่วไปรับประทานทุกๆ 6 ชั่วโมงเมื่อมีอาการปวด
หรือใช้ยานี้ตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด
โดยห้ามใช้ยาในขนาดที่มากหรือน้อยกว่าที่ระบุ
และหากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
สำหรับผู้ใหญ่
ไม่ควรรับประทานยานี้มากกว่า 650 มิลลิกรัมต่อครั้ง
(ห้ามรับประทานเกิน 1000 มิลลิกรัมต่อครั้ง)
สำหรับผู้ใหญ่
ไม่ควรรับประทานเกิน 3,250 มิลลิกรัมต่อวัน
(ห้ามรับประทานเกิน 4,000 มิลลิกรัมต่อวัน)
สำหรับผู้ใหญ่
ห้ามรับประทานยานี้ติดต่อกันเกิน 5 วัน
สำหรับเด็ก
ห้ามรับประทานยานี้ติดต่อกันเกิน 3-5 วัน
การรับประทานยานี้มากกว่าหรือบ่อยกว่าที่แพทย์สั่งให้ใช้อาจเป็นอันตรายต่อตับ
ยาสูตรผสมอื่นอาจจะมีตัวยาพาราเซตามอลผสมด้วย
โดยเฉพาะยาบรรเทาอาการหวัดต่างๆและยาแก้ปวด
ควรอ่านฉลากยาหรือสอบถามแพทย์หรือเภสัชกร
เพื่อไม่รับประทานยาซ้ำซ้อนซึ่งอาจจะทำให้ได้รับยาพาราเซตามอลเกินขนาด
จนเป็นอันตรายได้
หากใช้ยาแล้วยังคงมีไข้ต่อเนื่องหรือเป็นๆหายๆนานกว่า
3 วัน หรืออาการปวดไม่ทุเลาลงใน 10 วันในผู้ใหญ่
หรือ 5 วันในเด็ก ควรหยุดยาและปรึกษาแพทย์
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ
N ประวัติการแพ้ยา paracetamol
หรือยาอื่นๆ
N ใช้หรือกำลังใช้ยาอื่นๆ ทั้งยาที่แพทย์สั่งจ่ายและยาที่ใช้เอง
วิตามิน อาหารเสริม และยาสมุนไพร
N การตั้งครรภ์
การวางแผนในการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร
N ประวัติการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากๆ
หรือบ่อยๆ และ/หรือประวัติการเป็นโรคพิษสุรา (alcoholism)
N มีหรือเคยมีความผิดปกติของการทำงานของตับ
โรคฟีนิลคีโตนูเรีย (phenylketonuria)
N โรค ภาวะ
หรืออาการทางการแพทย์อื่นๆ ที่มี
N อายุหรือวัยของผู้ใช้ เช่น เด็ก
ผู้สูงอายุ
ในกรณีที่เป็นทารกหรือเด็กเล็กควรบอกน้ำหนักตัวแก่แพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบด้วย
ทำอย่างไรหากลืมรับประทานยาหรือใช้ยา
M โดยทั่วไปยานี้ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการปวดเท่านั้น
หากรับประทานยาไปครั้งหนึ่งแล้วอาการปวดลดลงหรือหายไป
ก็ไม่ต้องรับประทานยาครั้งต่อไป (การลืมรับประทานยาจึงไม่เป็นอันตราย)
แต่หากยังมีอาการปวดอยู่ สามารถรับประทานยานี้ได้ทุก 6 ชั่วโมงและไม่ควรเพิ่มขนาดการใช้ยาในครั้งต่อไป
M หากแพทย์สั่งให้ใช้ยานี้เป็นประจำทุก
6 ชั่วโมง ถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้
แต่ถ้าเป็นเวลาที่ใกล้กับมื้อต่อไป
ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลยโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
อาการอันไม่พึงประสงค์ที่ต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
M มีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน
ผื่นลมพิษ บวมตามอวัยวะต่างๆ เช่น ใบหน้า คอ ตา ริมฝีปาก ลิ้น มือ แขน น่อง ขา
ข้อเท้า หายใจหรือกลืนลำบาก มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ มีไข้ เจ็บคอ เสียงแหบ
มีเลือดออกหรือมีรอยช้ำอย่างผิดปกติ อ่อนเพลียหรือไม่มีแรงอย่างผิดปกติ ไข้ร่วมกับคลื่นไส้
อาเจียน ความอยากอาหารลดลง ตาหรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอย่างผิดปกติ
ปัสสาวะสีเข้มดำ
การเก็บรักษายา
² เก็บยานี้ในภาชนะบรรจุเดิมที่บรรจุมา
ปิดภาชนะให้สนิท และเก็บให้พ้นมือเด็ก
² เก็บยานี้ที่อุณหภูมิห้องระหว่าง
20-25 องศาเซลเซียส เช่น บริเวณที่ถูกแสงแดดโดยตรง
และไม่เก็บยาในบริเวณที่เปียกหรือชื้น
² ทิ้งยานี้เมื่อยาหมดอายุ
ที่มา
: http://yaandyou.net/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น